ตั้งแต่ปี 2565 เป็นมา ดูเหมือนตลาดหุ้นไทยจะไม่สดใส เอาแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา (24-28 ม.ค.64) SETจาก 1,652.73 จุด ลดไปถึง 1,639.51 จุด หรือ 13.22 จุดหรือ 0.80% และมีหุ้นดังๆ หรือหุ้น ดาวรุ่งพุ่งแรงในปีที่ผ่านๆมา ราคาไหลรูดเหมือนน้ำตก และเมื่อส่องอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง(5 วัน 20 วัน 60 วัน 120 วัน -YTD)ทุกช่วงเวลาติดลบหมด
1.OR (บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก) แม้ราคาล่าสุด (28 ม.ค.65) จะปิด 24.30 บาท เพิ่มขึ้น +0.10 บาทหรือ +0.41% แต่อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง ทุกช่วงเวลาติดลบหมด โดย ช่วง 5 วัน -3.76% ,ช่วง 20 วัน -10.83% ,ช่วง 60 วัน -12.43% , ช่วง 120 วัน -15.48% ,และYTD -10.00%
และในปี 65 ทำราคาสูงสุด คือ 27.50 บาท และ ต่ำสุด 23.80 บาท ส่วนในปี64 นับตั้งแต่วัน IPO ที่ราคา 18.00 บาท ทำราคาสูงสุด 36.50 บาท และต่ำสุด 24.60 บาท ซึ่งถ้านักลงทุนซื้อที่ราคาสูงสุด 36.50 บาท เทียบกับปัจจุบัน ราคา24.30 บาท ติดดอย 12.20 บาท หรือ -33.42%
2.KEX (บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย)) เข้าตลาด (23 ธ.ค.63) ด้วยราคา IPO 28.00 บาท โดยเปิดซื้อขายที่ 63.00 บาท และถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 73.00 บาทก่อนปิดเทรดวันแรก 51.25 บาท เพิ่มขึ้น 23.15 บาท หรือ 83.04% มูลค่าซื้อขาย 25,271.91 ล้านบาท จากนั้นก็ถูกจับตาในฐานะ”หุ้นดาวรุ่งพุ่งแรง” แต่ในเวลาไม่นานราคาหุ้น KEX ย่อลงต่อเนื่องจนถึงช่วงประกาศงบไตรมาสที่ 3 ปี64 ราคาหุ้นปรับฐานลงอย่างหนัก
ลงต่อเนื่องมาถึงปี65 ซึ่งอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังทุกช่วงเวลาติดลบหมด โดย ช่วง 5 วัน -13.15% , ช่วง 20 วัน -20.98%, ช่วง 60 วัน-36.16% ,ช่วง120 วัน -42.28%,และYTD -20.33% และปี 65 ทำราคาสูงสุด 30.75 บาทและต่ำสุด 23.40 บาท ส่วนปี 64 สูงสุด 62.25 บาท ต่ำสุด 30.00บาท ซึ่งถ้านักลงทุนซื้อที่ราคาสูงสุด 62.25 บาทเทียบกับปัจจุบัน (28 ม.ค.65) 24.10 บาท จะติดดอย 38.15 บาท หรือ -61.28% และ ถ้าเทียบราคาสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดฯ 73.00 บาทจะติดลบอยู่ -66.99%
3.TTA (บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์) ของตระกูล “มหากิจศิริ” ในปี 64 หุ้น TTA เป็นหุ้นที่ร้อนที่สุดตัวหนึ่ง จากราคาต่ำสุด 5.30 บาท เมื่อต้นปี64 แล้วเริ่มไต่ระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ พอถึงกลางเดือน มี.ค.64 ราคาทะลุเกิน 10.00 บาท จากนั้นอีก 1 เดือน ช่วงเม.ย.64 พุ่งไปเกิน 15.00 บาท และ11 มิ.ย.64 ทำราคาสูงสุด 19.50 บาท ก่อนย่อลงมาปิดที่ 18.20 บาท จากนั้นราคาค่อยๆ รูดลงจนต้นเดือน พ.ย. ราคาลงต่ำกว่า 10.00 บาท
และเมื่อขึ้นปี 65 นักลงทุนก็ได้เห็นราคาลงไปสู่ระดับ 8.50 บาท ซึ่งถ้าเทียบสูงสุดปี 64 ราคา 19.50 บาทกับ ล่าสุด (28 ม.ค.65) 8.75 บาท ราคาลดลง 10.75 บาทหรือ -55.13%และในปี 65 อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังทุกช่วงเวลาติดลบหมด โดย ช่วง 5 วัน -3.31%,ช่วง 20 วัน -8.38%, ช่วง60 วัน -22.57%, ช่วง 120 วัน -40.88% , และ YTD -8.38% และปี 65 ทำราคาสูงสุด 10.70 บาทและต่ำสุด 8.50 บาท
4.RCL(บมจ.อาร์ ซี แอล) 1 ในหุ้นเดินเรือสุดร้อนแรง ปี 64 สร้างอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง +246.83% จากราคา 17.50 บาท เมื่อต้นปี 64 ต่อมาก.พ.64 ราคาทะลุ 20.00 บาท ,เม.ย.พุ่งเกิน 30.00 บาท , พ.ค.เกิน 40.00 บาท,ปลาย พ.ค. ทะลุ 50.00บาท, มิ.ย. พ้น 60.00 บาท และ 11 มิ.ย. สูงสุดที่ 67.75 บาท ก่อนย่อลงมาปิด 58.25 บาท จากนั้นก็ค่อยๆ ไหล จนมาถึงปลายเดือน ม.ค.65 ราคาหลุด 40.00 บาท
และปี 65 ทำราคาสูงสุด 54.25 บาท และต่ำสุด 37.75 บาท อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังทุกช่วงเวลาติดลบหมด โดย ช่วง 5 วัน -7.56%, ช่วง 20 วัน -18.46% ,ช่วง 60 วัน -7.02% , ช่วง 120 วัน -29.65% ,และ YTD -19.29% ซึ่งเทียบราคาสูงสุดในปี 64 คือ 67.75 บาท กับปัจจุบัน (28 ม.ค.65) ราคาปิด 39.75 บาท ลดลง 28.00 บาทหรือ -41.33%
5.XPG (บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล) ปี 64 สร้าง อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง +621.78% จากราคา 0.40 บาทเมื่อต้นปี 64 จากนั้น มี.ค.64 ทะลุ 1.00 บาท ต่อมา พ.ค.64 เกินต้าน 2.00 บาท และ 1 มิ.ย.64 อัพไปถึง 4.00 บาท และ 29 ก.ค. 64 ทำราคาสูงสุดที่ 5.00 บาท ก่อนหล่นไปปิดที่ 4.46 บาท และหลัง พ.ย.64 ราคาเริ่มไหลลงไปเรื่อย
และปี 65 ทำราคาสูงสุด 3.28 บาท ต่ำสุด 2.00 บาท, อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง ทุกช่วงเวลาติดลบหมด โดยช่วง 5 วัน -23.19%, ช่วง 20 วัน-24.29% ,ช่วง 60 วัน -32.05% ,ช่วง 120 วัน -45.08% ,และ YTD -26.90% ซึ่งเทียบราคาสูงสุดในปี 64 คือ 5.00 บาทกับปัจจุบัน (28 ม.ค.65) ราคาปิด2.12 บาท ลดลง 2.88 บาท หรือ -57.60%
6.KISS (บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล) หุ้น IPO ที่จดทะเบียนกับตลท. เมื่อ 19 ก.พ. 64 โด่งดังมาจาก มีรายชื่อ เซียนฮง นายสถาพร งามเรืองพงศ์ เป็น ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก จากราคา IPO 9.00 บาท ปิดเทรดวันแรกที่ 14.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท (+55.56%) และขึ้นไปราคาสูงสุด 17.40 บาท เมื่อ 23 มี.ค.64 จากนั้นราคาก็รูดไหล แต่ยังประคองไม่หลุด 10.00 บาท จบปี 64 ที่ราคาปิด 10.50 บาท แต่พอขึ้นปี 65 ราคาลงหนัก
และปี 65 ทำราคาสูงสุด 10.80 บาท ต่ำสุด 8.40 บาท, อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง ทุกช่วงเวลาติดลบหมด โดย ช่วง 5 วัน -9.47%, ช่วง 20 วัน-17.31% ,ช่วง 60 วัน -24.56% ,ช่วง 120 วัน -21.10% , และ YTD -18.10% ซึ่งเทียบราคาสูงสุดในปี 64 คือ 17.40 บาทกับปัจจุบัน (28 ม.ค.65) ราคาปิด 8.6 0บาท ลดลง 8.80 บาทหรือ -50.57%
7.DELTA (บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)) 1ในหุ้นร้อนที่สุดในปี 63 อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง +808.41% แต่พอปี 64 ลดฮวบเหลือ -15.23% ซึ่งในปี 64 DELTA ทำราคาสูงสุดไว้ที่ 804.00 บาท ก่อนไหลไปปิดที่ 748.00 บาทเมื่อ11 ม.ค.64 จากนั้นก็ 24 มี.ค. 64 ทำราคาต่ำสุด 286.00 บาทก่อนดีดกลับไปปิดที่ 310.00 บาท ก่อนจะรูดม่านปี 64 ที่ราคา 412.00 บาท
และปี 65 ทำราคาสูงสุด 422.00 บาท ต่ำสุด 336.00 บาท, อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง ทุกช่วงเวลาติดลบหมด โดยช่วง 5 วัน -13.52%, ช่วง 20 วัน -22.95% ,ช่วง 60 วัน -21.89% ,ช่วง 120 วัน -38.81% ,และ YTD -17.72% ซึ่งเทียบราคาสูงสุดในปี 64 คือ 804.00 บาท กับปัจจุบัน (28 ม.ค.65) ราคาปิด 339.00 บาท ลดลง 465.00 บาท หรือ -57.83%
8.HANA (บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส) ปี 64 สร้างอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง +122.64% จากราคา 40.50 บาท เมื่อต้นปี 64 จากนั้น เม.ย.64 ทะลุ 60.00 บาท หลังจากนั้น เดือน มิ.ย.64 พุ่งเกิน 70.00 บาท พอถึง ก.ย.64 แรงจัดเกิน 80.00 บาท ต่อมา พ.ย.64 ผ่านแนว 90.00 บาท และ 16 พ.ย.64 ทำราคาสูงสุด 96.25 บาท ก่อนราคาจะย่อลงตามลำดับ
และปี 65 ทำราคาสูงสุด 89.00 บาท ต่ำสุด 69.00 บาท, อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง ทุกช่วงเวลาติดลบหมด โดย ช่วง 5 วัน -5.48%, ช่วง 20 วัน -23.97% ,ช่วง 60 วัน -14.55% ,ช่วง 120 วัน -8.61% ,และ YTD -22.03% ซึ่งเทียบราคาสูงสุดในปี64 คือ 96.25 บาทกับปัจจุบัน (28 ม.ค.65) ราคาปิด 69.00 บาท ลดลง 27.25 บาทหรือ -28.31%
9.KCE (บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์) ปี 64 สร้างอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง +112.05% จากราคา 42.50บาท เมื่อต้นปี 64 ต่อมากลางเดือนก.พ.64 ขยับขึ้นเกิน 60.00 บาท และช่วงปลาย ก.ค.64 ทะลุ 80.00 บาท ต่อมา พ.ย.64 พุ่งเกิน 90.00 บาท และ 16 พ.ย.64 ราคาสูงสุด 95.00 บาท ก่อนจะยอมาปิดที่่ 93.00 บาท
และปี 65 ทำราคาสูงสุด 89.25 บาท ต่ำสุด 70.50 บาท , อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง ทุกช่วงเวลาติดลบหมด โดยช่วง 5 วัน -6.00%, ช่วง 20 วัน -21.23% ,ช่วง 60 วัน -19.20% ,ช่วง 120 วัน -10.48% , และ YTD -19.89% ซึ่งเทียบราคาสูงสุดในปี 64 คือ 95.00 บาทกับปัจจุบัน (28 ม.ค.65) ราคาปิด 70.50 บาท ลดลง 24.50 บาท หรือ -25.79%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเหล่านี้บางตัวยังมีพื้นฐานแข็งแกร่ง และกำลังอยู่ในช่วงปรับฐาน แต่บางตัวอาจเลยไปถึงจุดพังฐานแล้ว ฉะนั้นต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน!
อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket