อย.เตือนภัย 3 ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอันตรายปนเปื้อนสารห้ามใช้ พบขายเกลื่อนออนไลน์

News ข่าวสารล่าสุด

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประกาศเตือนประชาชนหลังตรวจพบเครื่องสำอาง 3 รายการมีการปนเปื้อนสารอันตรายทั้งปรอทและสเตียรอยด์ รวมถึงการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์เกินมาตรฐาน ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ทั้งการแพ้ ผื่นแดง และอาจเกิดพิษสะสมทำลายอวัยวะภายใน

นนทบุรี, 28 เมษายน 2568 – สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยผลการตรวจสอบและวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีการจำหน่ายทั้งในช่องทางออนไลน์และจากผู้ผลิตโดยตรง พบการปนเปื้อนสารอันตรายห้ามใช้และเชื้อจุลินทรีย์เกินมาตรฐานในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 3 รายการ ซึ่งเข้าข่ายเป็นเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข

การตรวจสอบดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ อย. ได้สั่งซื้อตัวอย่างเครื่องสำอางจากร้านค้าออนไลน์เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 จากผู้ขายสองบัญชี และมีการตรวจสอบเพิ่มเติมอีกสองบัญชีเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 นอกจากนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานียังได้เก็บตัวอย่างเครื่องสำอางโดยตรงจากบริษัท สกินเน็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอาง เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 เพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

ผลิตภัณฑ์อันตราย 3 รายการที่ตรวจพบ

1. คลีโอเม่ ไวท์ ครีมสำหรับกลางคืน – ปนเปื้อนสารปรอท

ผลิตภัณฑ์นี้ตรวจพบการปนเปื้อนสารปรอทและสารประกอบของปรอท (Mercury and its compounds – Mercury) ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง โดยมีการจำหน่ายผ่านร้านค้าออนไลน์ชื่อ “allbeauty88” และ “บิวตี้บิวตี้”

อันตรายของสารปรอทที่ปนเปื้อนมีความรุนแรง สามารถส่งผลให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำคล้ำ และที่สำคัญคือผิวหนังจะบางลงอย่างผิดปกติ นอกจากนี้ หากมีการใช้เป็นระยะเวลานาน สารปรอทจะสะสมในร่างกายและอาจส่งผลให้เกิดการอักเสบของทางเดินปัสสาวะและไตอักเสบ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรง

ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นประจำควรหยุดใช้ทันที และหากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็วที่สุด การสะสมของสารปรอทในร่างกายเป็นระยะเวลานานอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

2. LIGHT WHITE BODY CREAM PLUS ไลท์ไวท์ บอดี้ ครีม พลัส สูตรเข้มข้น – ปนเปื้อนสเตียรอยด์

ผลิตภัณฑ์นี้ตรวจพบการปนเปื้อนสาร Betamethasone 17-valerate ซึ่งเป็นสารในกลุ่มสเตียรอยด์ (Glucocorticoids) ที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอาง โดยมีการจำหน่ายผ่านร้านค้าออนไลน์ชื่อ “แม่ค้า ชื่อนัทตี้” และ “@nuttee113”

สารสเตียรอยด์ที่ปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์นี้สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง ทำให้ผิวหนังบางลงกว่าปกติ เกิดรอยแตกลายที่ผิว เส้นเลือดใต้ผิวหนังผิดปกติ มีอาการหน้าแดงตลอดเวลา เกิดผื่นแพ้ สิวผด และที่น่ากังวลคือทำให้ผิวหนังมีสีจางลงผิดปกติ หากมีการใช้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเวลานาน ผู้ใช้อาจพบว่าผิวเกิดภาวะด่างขาวอย่างถาวร

ผู้ที่กำลังใช้ผลิตภัณฑ์นี้อยู่ควรหยุดใช้ทันที เนื่องจากผลข้างเคียงของสเตียรอยด์อาจไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่จะค่อยๆ ทำลายโครงสร้างผิวหนังอย่างช้าๆ และเมื่อมีอาการชัดเจนอาจสายเกินแก้ การหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ทันทีและปรึกษาแพทย์ผิวหนังเป็นสิ่งที่ควรทำโดยเร็วที่สุด

3. ยาสีฟัน ไอวิศน์ นิยมธรรมชาติ เจนเทิล พาวเวอร์ฟูล ไวท์เทนนิ่ง แอนด์ แอนตี้ คาวิตี้ ทูธเพส – ปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์เกินมาตรฐาน

ผลิตภัณฑ์นี้ถูกเก็บตัวอย่างโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี และเมื่อตรวจวิเคราะห์พบจำนวนรวมของแบคทีเรีย ยีสต์ และรา ที่เจริญเติบโตโดยใช้อากาศ (Total aerobic plate count) สูงถึง 46,000 โคโลนีต่อกรัม ซึ่งเกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ไม่เกิน 500 โคโลนีต่อกรัม

การปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ในปริมาณสูงเช่นนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในช่องปาก เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์เหล่านี้อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อในช่องปาก เหงือก และอาจแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารได้ ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือผู้ป่วยโรคเรื้อรัง อาจเกิดการติดเชื้อรุนแรงได้

ผลิตภัณฑ์นี้มีลักษณะเข้าข่ายเป็นเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดลักษณะของเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย พ.ศ. 2559 โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นเครื่องสำอางที่สัมผัสเยื่อบุอ่อน

คำแนะนำสำหรับผู้บริโภค

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการเลือกซื้อเครื่องสำอางด้วยความระมัดระวัง โดยควรปฏิบัติดังนี้:

  1. เลือกซื้อเครื่องสำอางจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอน น่าเชื่อถือ ไม่ควรซื้อจากแหล่งที่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาได้
  2. ตรวจสอบฉลากภาษาไทยให้มีข้อความครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งประกอบด้วย:
    • ชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้า
    • ประเภทหรือชนิดของเครื่องสำอาง
    • ชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสม
    • วิธีใช้เครื่องสำอาง
    • ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า
    • ปริมาณสุทธิ
    • ครั้งที่ผลิต (ถ้ามี)
    • เดือนปีที่ผลิต หรือปีเดือนที่ผลิต
    • คำเตือน (ถ้ามี)
    • เลขที่ใบรับจดแจ้ง
  3. สำหรับร้านค้าที่ซื้อเครื่องสำอางมาเพื่อจำหน่ายต่อ ควรซื้อจากผู้มีหลักแหล่งที่น่าเชื่อถือ และต้องมีหลักฐานการซื้อขายที่ระบุชื่อและที่ตั้งของผู้ขายอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมาย
  4. สามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ได้รับอนุญาตและผลการวิเคราะห์เครื่องสำอางที่เป็นอันตรายได้ที่เว็บไซต์ https://cosmetic.fda.moph.go.th/ประกาศผลการวิเคราะห์/

ช่องทางการแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียน

หากประชาชนพบเห็นผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่าจะเป็นอันตราย หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ที่:

  • สายด่วน อย. 1556
  • Line@FDAThai
  • Facebook: FDAThai
  • Email: [email protected]
  • ตู้ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004
  • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ

ดร.ภญ.สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการ อย. กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดในการทำงานของ อย. เราจะดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต่อผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการเลือกซื้อเครื่องสำอาง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เช่น ทำให้ขาวใสทันที ลบเลือนริ้วรอยได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งมักมีการลักลอบใส่สารห้ามใช้เพื่อให้เห็นผลรวดเร็ว แต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว”

ทั้งนี้ การผลิต นำเข้า หรือขายเครื่องสำอางที่มีลักษณะห้ามตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย. ยังคงเฝ้าระวังและตรวจสอบเครื่องสำอางที่วางจำหน่ายในท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน และจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้กระทำความผิด เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ